อีเมล์
กรุณาใช้อีเมล์ที่สามารถรับข่าวสารได้
รหัสยืนยันตัวตน

ข้อตกลงการใช้และนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนตัว

  • ข้อตกลงการใช้งาน
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
เงื่อนไขการให้บริการของ ITEMMANIA (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า "เงื่อนไขการให้บริการ”) นี้เป็นข้อตกลงระหว่างผู้ใช้บริการบนเว็บไซต์ www.itemmania.in.th ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ผู้ใช้บริการ” ฝ่ายหนึ่ง บริษัท ไอเทมเมเนียทีเอช จำกัด สำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ 284/2 ถนนพุทธบูชา แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร โดยผู้ใช้บริการสามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ www.itemmania.in.th ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการมีหน้าที่ต้องตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการและทำความเข้าใจก่อนเริ่มใช้บริการบนเว็บไซต์ www.itemmania.in.th หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการให้บริการ ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อสอบถามได้ผ่านช่องทางเว็บไซต์ หรือช่องทางอื่นตามที่ผู้ให้บริการกำหนด
1. ข้อกำหนดเบื้องต้น
ผู้ใช้บริการตกลงยินยอมด้วยความสมัครใจที่จะใช้บริการบนเว็บไชต์ www.itemmania.in.th และผูกพันตามเงื่อนไขการให้บริการนี้ โดยผู้ให้บริการอาจทำการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิ่มเติมข้อกำหนดหรือเงื่อนไขการให้บริการได้เพื่อให้เป็นไปตามสถานะการณ์ปัจจุบันได้ ทั้งนี้ ผู้ให้บริการไม่จำต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบ และกรณีที่ผู้ใช้บริการคงใช้บริการต่อไปภายหลังจากที่ผู้ให้บริการมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือเพิ่มเติม ข้อกำหนดหรือเงื่อนไขการให้บริการดังกล่าวให้ถือว่าผู้ใช้บริการได้ยอมรับและยินยอมให้มีผลผูกพันตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการของผู้ให้บริการ
2. คำจำกัดความ
2.1 เว็บไซต์ หมายถึง www.itemmania.in.th ซึ่งได้จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ได้ 2.2 ผู้ใช้บริการ แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ - สมาชิก หมายถึง ผู้ที่ลงทะเบียนสมัครใช้บริการกับผู้ให้บริการตามวิธีการที่ผู้ให้บริการกำหนด - ผู้ใช้ หมายถึง บุคคลใด ๆ ที่เข้าถึงเว็บไซต์เพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ ไม่ว่าผู้ใช้จะเป็นสมาชิกที่ลงทะเบียนหรือไม่ก็ตาม 2.3 ไมล์เลจ หมายถึง ข้อมูลเสมือนที่ใช้ในบริการที่เกี่ยวข้องที่กำหนดโดยผู้ให้บริการ 2.4 ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ระบุตัวบุคคลได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 2.5 บริการ หมายถึง การดำเนินการใด ซึ่งประกอบไปด้วย เนื้อหา ข้อมูล เอกสาร ภาพถ่าย วิดีโอ ไดเร็กทอรี ไฟล์ ฐานข้อมูลหรือข้อเสนอที่มีอยู่บนหรือผ่านทางเว็บไซต์ เพื่อตอบความสนองของผู้ให้บริการ
3. ข้อกำหนดทั่วไป
3.1 ผู้ใช้บริการตกลงที่จะปฏิบัติและผูกพันตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการ ซึ่งการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ บนเว็บไซต์ www.itemmania.in.th ของผู้ให้บริการถือเป็นการยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขของผู้ให้บริการ โดยผู้ให้บริการอาจแก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติม ข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการได้ ไม่ว่าในเวลาใด โดยผู้ให้บริการไม่จำต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบ และการที่ผู้ใช้บริการใช้งานต่อไปภายหลังจากที่มีการแก้ไข หรือเพิ่มเติมดังกล่าว ย่อมถือเป็นการยอมรับการแก้ไข หรือเพิ่มเติมในแต่ละครั้ง 3.2 ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุง หรือยกเลิกการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการชั่วคราว หรือระงับการให้บริการเป็นการถาวร ผู้ให้บริการจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ การยกเลิก หรือระงับการให้บริการ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของบริการย่อมไม่กระทบถึงสิทธิเรียกร้องของผู้ให้บริการในการเรียกเก็บหนี้ใด ๆ ที่ผู้ใช้บริการยังคงค้างชำระอยู่กับผู้ให้บริการ 3.3 ผู้ให้บริการมีหน้าที่เพียงให้บริการการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ในการซื้อหรือหรือขายสินค้าบนเว็บไซต์ www.itemmania.in.th ให้แก่ผู้ใช้บริการเท่านั้น การซื้อหรือขายสินค้าของผู้ใช้บริการที่ได้ทำขึ้นระหว่างผู้ใช้บริการด้วยกันเองนั้น ผู้ให้บริการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมดังกล่าว และผู้ให้บริการมิได้เป็นตัวแทน หรือนายหน้า หากมีความเสียหายเกิดขึ้นอันเกิดจากการกระทำของผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายนั้นเอง
4. ข้อกำหนดและเงื่อนไขในการใช้บริการ
กรณีผู้ใช้บริการมีความประสงค์ใช้บริการบนเว็บไซต์ www.itemmania.in.th ของผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการต้องลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิกโดยผู้ใช้บริการต้องดำเนินการดังต่อไปนี้ 4.1 ผู้ใช้งานต้องมีอายุตั้งแต่ 12 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ในการลงทะเบียนสมัครใช้บริการนั้นผู้ใช้บริการจะต้องลงทะเบียนด้วยข้อมูลส่วนบุคคลโดยระบุชื่อสกุล อีเมล หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ และหมายเลขบัตรประจําตัวประชาชนของผู้ใช้บริการ รวมทั้งข้อมูลอื่น ๆ รายละเอียดเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการของผู้ให้บริการ และให้อยู่ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 4.2 ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธการเปิดใช้บริการ ให้บริการ และ/หรือทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ www.itemmania.in.th กับผู้ใช้บริการที่ปกปิดการยืนยันตัวตน โดยใช้นามสมมุติ หรือนามแฝง หรือในกรณีที่ผู้ใช้บริการตรวจพบว่าชื่อที่ผู้ใช้บริการสมัครลงทะเบียนเป็นชื่อที่ไม่ถูกต้องแท้จริงและเป็นปัจจุบัน ทั้งนี้การพิจารณาอนุมัติเพื่อใช้บริการขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ให้บริการแต่เพียงฝ่ายเดียว 4.3 ผู้ใช้บริการจะต้องเก็บรักษารหัสสมาชิกที่ใช้ลงทะเบียน รหัสผ่าน และข้อมูลที่ใช้ในการลงทะเบียนสมัครใช้บริการไว้เป็นความลับ ห้ามเปิดเผย หรือกระทำการใด ๆ ที่อาจทำให้ผู้อื่นล่วงรู้ถึงรหัสสมาชิกที่ใช้ลงทะเบียน รหัสผ่าน และ/หรือข้อมูลดังกล่าว หากข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการถูกเปิดเผยโดยการกระทำของผู้ใช้บริการเองและมีความเสียหายเกิดขึ้น ผู้ให้บริการจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายดังกล่าว 4.4 ผู้ใช้บริการยอมรับว่าหากมีการทํารายการหรือการทำธุรกรรมใด ๆ บนเว็บไซต์ www.itemmania.in.th ที่ใช้บัญชีและรหัสผ่านของผู้ใช้บริการไม่ว่ากรณีใด ๆ ให้ถือว่าเป็นการกระทําของผู้ใช้บริการเองทุกประการ โดยผู้ให้บริการไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการทํารายการธุรกรรมใด ๆ ภายใต้บัญชีของผู้ใช้บริการจากการใช้รหัสผ่านดังกล่าว 4.5 ในกรณีที่ผู้ใช้บริการใช้บัญชีและรหัสผ่านทํารายการธุรกรรมใด ๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการใช้บริการเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ผู้ใช้บริการตกลงและยอมรับว่าการทำธุรกรรมบนเว็บไซต์ www.itemmania.in.th ของผู้ให้บริการ ทั้งนี้ผู้ใช้บริการไม่สามารถยกเลิก เพิกถอน เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขรายการดังกล่าวได้ และผู้ใช้บริการต้องผูกพันตามรายการดังกล่าวทุกประการ 4.6 ผู้ใช้บริการตกลงและยอมรับว่าในการใช้บริการหากมีการเข้าถึงบัญชีของผู้ใช้บริการติดต่อกันหลายครั้ง หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการเข้าถึงบัญชีของผู้ใช้บริการผิดปกติ ผู้ให้บริการจะระงับการใช้บริการโดยอัตโนมัติทันทีและผู้ใช้บริการจะสามารถใช้บริการต่อไปได้ก็ต่อเมื่อแจ้งความจํานงให้ผู้ให้บริการทราบ 4.7 ในกรณีที่ผู้ใช้บริการลืมรหัสผ่าน หรือต้องการเปลี่ยนแปลงรหัสผ่านไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ผู้ใช้บริการต้องดําเนินการแจ้งให้ผู้ให้บริการทราบทันทีตามวิธีการที่ผู้ให้บริการกําหนด อย่างไรก็ตามการดําเนินการต่าง ๆ ข้างต้นจะไม่มีผลกระทบต่อการทําธุรกรรมใด ๆ ที่ได้ดําเนินการไป 4.8 ผู้ใช้บริการตกลงยินยอมชําระค่าธรรมเนียมในการใช้บริการตามอัตราที่ผู้ให้บริการกําหนด โดยผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบค่าธรรมเนียมได้ที่เว็บไซต์ www.itemmania.in.th ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียมไม่ว่าเวลาใด โดยผู้ให้บริการจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 4.9 ผู้ใช้บริการสามารถเติมไมล์เลจเพื่อทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ www.itemmania.in.thของผู้ให้บริการได้ทางช่องทาง Mobile Banking, QR Cash, QR Credit, Rabbit LINE Pay, TrueMoney Wallet, Shopee Pay หรือช่องทางอื่นใดที่ผู้ให้บริการอาจจะมีเพิ่มเติมในอนาคต การเติมไมล์เลจแต่ละช่องทางอาจมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน โดย 1 ไมล์เลจ มีมูลค่าเท่ากับ 1 บาท 4.10 ในกรณีที่มีการทำธุรกรรมผ่านเว็บไซต์ผ่าน www.itemmania.in.th ผู้ใช้บริการจะต้องชำระค่าธรรมเนียมให้แก่ผู้ให้บริการ โดยผู้ใช้บริการยินยอมให้ผู้ให้บริการหักไมล์เลจเพื่อชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าวในได้ทันทีที่มีการทำรายการ 4.11 ในกรณีที่เกิดความผิดพลาดในการใช้บริการ อันเกิดขึ้นจากความผิดพลาดของผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการยินยอมให้ผู้ให้บริการแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้นให้ถูกต้องได้ตามความเป็นจริง ทั้งนี้หากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นจากผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการต้องตรวจสอบความผิดพลาดดังกล่าวด้วยตนเองและหากมีข้อต่อสู้และ/หรือการเรียกร้องสิทธิใด ๆ เกิดขึ้น ให้ผู้ใช้บริการไปว่ากล่าวกันเองกับคู่พิพาทของผู้ใช้บริการ 4.12 ผู้ใช้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจสอบบัญชีสมาชิกของผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวตามความเหมาะสม ในกรณีที่ผู้ให้บริการพบหรือได้ทราบถึงหรือมีเหตุควรเชื่อได้ว่าบัญชีสมาชิกของผู้ใช้บริการได้รับเงินมาจากความผิดพลาดในการโอนเงินของผู้ใช้บริการรายอื่น หรือมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าได้รับเงินเข้าบัญชีอันเนื่องมาจากการกระทำผิดกฎหมาย หรือพยายามกระทำความผิดหรือเหตุใด ๆ ก็ตาม ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับผู้ให้บริการ หรือบุคคลอื่นใด 4.13 ผู้ใช้บริการต้องไม่ขายหรือเสนอขายบัญชีสมาชิกของผู้ใช้บริการ หรือโอนบัญชีสมาชิกหรือรหัสผ่านของผู้ใช้บริการไปยังบุคคลที่สามโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าจากผู้ให้บริการ หากผู้ใช้บริการกระทำการดังกล่าวถือว่าเป็นการละเมิดข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการนี้ ผู้ให้บริการ อาจระงับหรือยกเลิกบัญชีของผู้ใช้บริการหรือบัญชีผู้รับโอนสิทธิ์ของผู้ให้บริการได้ทันที 4.14 ผู้ให้บริการจะจัดให้มีแพลตฟอร์มสำหรับการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการสำหรับการทำธุรกรรมซื้อขายไอเทมเกม ในกรณีหากมีข้อสงสัยผู้ใช้บริการสามารถสื่อสารผ่านช่องทางดังกล่าวได้ 4.15 ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมในการซื้อขาย ผู้ให้บริการจะเผยแพร่นโยบายค่าธรรมเนียมแยกต่างหากสำหรับการใช้บริการในหน้าค่าธรรมเนียมและการชำระเงิน ผู้ให้บริการอาจเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียมเป็นครั้งคราวโดยโพสต์การเปลี่ยนแปลงบนเว็บไซต์ล่วงหน้า 3 วัน และนโยบายค่าธรรมเนียมเหตุการณ์ชั่วคราวไม่อาจประกาศล่วงหน้าได้ 4.16 ผู้ใช้บริการต้องชำระค่าธรรมเนียมและภาษีที่เกี่ยวกับใช้บริการของผู้ให้บริการตามรายการที่ผู้ใช้บริการได้ทำธุรกรรมผ่าน www.itemmania.in.th ภายในกำหนดเวลาชำระเงิน หากผู้ใช้บริการไม่ชำระค่าธรรมเนียมและภาษีผู้ให้บริการอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมล่าช้า 4.17 หากผู้ใช้บริการได้ฝ่าฝืนข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการ รวมถึงประกาศหรือข้อบังคับอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ ผู้ให้บริการอาจจำกัดการให้บริการ หรือระงับการให้บริการหรือยกเลิกการใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้บริการทราบล่วงหน้า
5. ข้อกำหนดและเงื่อนไขการยกเลิกและการคืนสินค้า
ผู้ให้บริการไม่มีนโยบายการในการรับคืนของสินค้า หรือการขอยกเลิกบัตรเติมเงิน หรือบัตรเกม ภายหลังที่ผู้ใช้บริการได้ทำรายการด้วยตนเองจนเสร็จสิ้น เว้นแต่มีข้อผิดพลาดจากการใช้รหัสในการยืนยันสินค้า และผู้ใช้บริการต้องแจ้งให้ผู้ให้บริการทราบทันทีเพื่อตรวจสอบและดำเนินการตามวิธีการที่บริษัทกำหนด
6. ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการการถอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร
6.1 ในกรณีที่ผู้ใช้บริการต้องการทำรายการผ่านเว็บไซต์ www.itemmania.in.th ของผู้ให้บริการเพื่อขอถอนเงินจากบัญชีที่ลงทะเบียนใช้บริการเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผู้ใช้บริการระบุไว้ตอนลงทะเบียน ผู้ใช้บริการจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนและวิธีการที่ผู้ให้บริการกำหนด ผู้ใช้บริการตกลงและยอมรับว่าในการถอนเงินจากบัญชีของสมาชิกของผู้ใช้บริการเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผู้ใช้บริการระบุไว้ จะมีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมการถอนเงิน ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบอัตราค่าธรรมเนียมได้ที่เว็บไซต์ www.itemmania.in.th โดยอัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าวจะถูกหักจากเงินในบัญชีสมาชิกของผู้ใช้บริการทันทีที่ผู้ใช้บริการทำรายการถอนเงิน 6.2 เมื่อผู้ใช้บริการได้ถอนเงินจากบัญชีสมาชิกจนเสร็จสิ้นแล้ว ผู้ใช้บริการไม่สามารถขอยกเลิกรายการทำธุรกรรมในการขอถอนเงินจากบัญชีสมาชิกที่ลงทะเบียนไว้ได้ 6.3 กรณีที่ผู้ให้บริการพบว่าในบัญชีสมาชิกที่ลงทะเบียนของผู้ใช้บริการมีไมล์เลจไม่เพียงพอกับจำนวนที่ต้องการขอถอนเงิน รวมถึงค่าธรรมเนียมการทำรายการถอนเงิน ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการระงับการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการในครั้งนั้น ๆ
7. การยกเลิกและการระงับการให้บริการ
7.1 กรณีผู้ใช้บริการแจ้งข้อมูลหรือแสดงเอกสารหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือแสดงเอกสารหลักฐานไม่ครบถ้วนตามที่ผู้ให้บริการร้องขอในการลงทะเบียนสมัครใช้บริการ 7.2 กรณีมีคำสั่งของราชการหรือหน่วยงานของรัฐให้ระงับ หรือยกเลิกการให้บริการ หรือถูกกล่าวหา หรือถูกสงสัยว่าเป็นผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย หรือ ผู้ให้บริการมีเหตุสงสัยว่าผู้ใช้บริการกระทำความผิด หรือพยายามกระทำความผิดตามที่กฎหมายกำหนด หรือ กระทำการใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับผู้ให้บริการหรือบุคคลอื่นใด 7.3 ในกรณีที่ผู้ใช้บริการที่สมัครลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.itemmania.in.th และปรากฏว่าบัญชีสมาชิกของผู้ใช้บริการมีไม่การเคลื่อนไว้หรือการเข้าใช้บริการเป็นระยะเวลาติดต่อกันเกินกว่า 6 (หก) เดือนนับแต่การเข้าใช้งานครั้งล่าสุด ผู้ให้บริการจำต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการรักษาบัญชีสมาชิกของผู้ใช้บริการเป็นรายเดือน อัตราค่าธรรมเนียมต่อเดือนเป็นเงินจำนวน 100 บาท โดยผู้ให้บริการจะหักค่าธรรมเนียมออกจากยอดเงินคงเหลือในบัญชีสมาชิกของผู้ใช้บริการจนกว่าจะไม่มียอดเงินคงเหลือในบัญชีสมาชิกดังกล่าว ในกรณีหากบัญชีสมาชิกของผู้ใช้บริการไม่มียอดเงินเหลือ หรือมีไม่เพียงพอต่อการชำระค่าธรรมเนียมรักษาบัญชี ผู้ให้บริการจะหักเงินของผู้ใช้บริการเพียงเท่าที่เหลืออยู่เป็นค่าธรรมเนียมรักษาบัญชี และยกเลิกการให้บริการสำหรับบัญชีสมาชิกของผู้ให้บริการทันที ในกรณีที่ผู้ใช้บริการมีความประสงค์ต้องการขอรับเงินคืนจากบัญชีสมาชิก ผู้ให้บริการจะตรวจสอบความถูกต้อง หากพบว่ามียอดเงินคงเหลือในบัญชีสมาชิกของผู้ใช้บริการเหลือเท่าใด ผู้ให้บริการจะคืนเงินจำนวนเท่าที่คงเหลือให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยผู้ใช้บริการสามารถถอนเงินได้ตามวิธีการที่ผู้ให้บริการกำหนด ในการนี้ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์เรียกเก็บค่าธรรมเนียมอันเนื่องมาจากการทำธุรกรรมการถอนเงินดังกล่าว (ถ้ามี) 7.4 ในกรณีผู้ให้บริการยุติการให้บริการ ผู้ให้บริการจะแจ้งให้แก่ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วันทำการ โดยประกาศให้ทราบผ่านช่องทาง www.itemmania.in.th หรือวิธีอื่นใดตามที่ผู้ให้บริการกำหนดและผู้ใช้บริการสามารถดำเนินการถอนเงินด้วยตนเองได้ตามข้อ 6. กรณีผู้ใช้บริการมิได้ดำเนินการถอนเงินภายในระยะเวลาที่ผู้ให้บริการแจ้งให้ทราบ ผู้ให้บริการจะดำเนินการจัดส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ไปยังอีเมลล์ของผู้ใช้บริการที่แจ้งไว้กับผู้ให้บริการทราบอีกครั้ง โดยผู้ใช้บริการสามารถแจ้งความประสงค์ขอถอนเงินพร้อมชำระค่าธรรมเนียมได้ภายใน 30 วันทำการ 7.5 กรณี ข้อ 7.4 หากไม่มีผู้ใช้บริการติดต่อเพื่อขอถอนเงินภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่ที่ผู้ใช้บริการได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบผ่านช่องทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีอื่นใดตามที่ผู้ให้บริการกำหนด ผู้ใช้บริการจะไม่สามารถขอรับเงินคืนได้อีก
8. คำรับรองของผู้ใช้บริการ
8.1 ผู้ใช้บริการรับรองว่าจะไม่ทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย รวมถึงการกระทําซึ่งมีลักษณะฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยศีลธรรมอันดีของประชาชน และละเมิดสิทธิของผู้อื่น 8.2 ผู้ใช้บริการรับรองว่าจะไม่ประพฤติตนเป็นการก่อกวน หรือรบกวนการใช้งานของบุคคลอื่นใด ไม่พยายามเข้าสู่เว็บไซต์ หรือเครือข่ายที่เชื่อมต่อกับเว็บไซต์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ทำการในในลักษณะ การเจาะระบบ (hacking) ขโมย สำเนา หรือทำลายฐานข้อมูล ทำลายรหัสลับส่วนตัว (password mining) หรือวิธีการอื่นใด 8.3 จากข้อ 8.2 หากเกิดความเสียหายใด ๆ ขึ้นแก่ผู้ใช้บริการหรือบุคคลอื่น หรือผู้ให้บริการถูกเรียกร้องให้ต้องรับผิดชอบจากการที่ผู้ให้บริการทําธุรกรรมเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าวข้างต้น ผู้ใช้บริการตกลงรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ให้บริการทุกประการ และยินยอมให้ผู้ให้บริการระงับหรือยกเลิกการให้บริการได้ทันที 8.4 ในการสมัครขอใช้บริการผู้ให้บริการจัดให้มีการยืนยัน/พิสูจน์ตัวตน ผู้ใช้บริการขอรับรองว่าบัตรประจำตัวประชาชนที่ใช้ในการยืนยันตัวตน เป็นบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ใช้บริการที่ระบุข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกต้องแท้จริงและเป็นปัจจุบันของผู้ใช้บริการ 8.5 ผู้ใช้บริการรับรองว่าจะให้ความร่วมมือ รวมถึงตกลงจัดเตรียมข้อมูล และ/หรือจัดส่งเอกสารหลักฐาน หรือเอกสารใด ๆ ซึ่งผู้ให้บริการอาจร้องขอให้ส่งเพิ่มเติมเพื่อวัตถุประสงค์ในการพิจารณาให้เปิดใช้บริการ ให้บริการทำธุรกรรมใด ๆ หรือเพื่อปฏิบัติตามข้อกําหนด
9. ข้อจำกัดความรับผิดของผู้ให้บริการ
9.1 ในการให้บริการผู้ใช้บริการทราบดีว่า อาจเกิดความผิดพลาด ล่าช้า หรือไม่อาจให้บริการได้เป็นการชั่วคราว ไม่ว่าเกิดจากระบบเครือข่ายการให้บริการ หรือระบบ คอมพิวเตอร์ หรือระบบใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ติดไวรัส หรือปัญหาจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ และ/หรือไม่ว่าจะเกิดจากเหตุสุดวิสัย หรืออยู่นอกเหนือจากการควบคุมของผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการตกลงจะไม่ยกเอาเหตุขัดข้องดังกล่าวมาเป็นข้อเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ จากผู้ให้บริการ เป็นอันขาด 9.2 ผู้ใช้บริการรับทราบว่าผู้ให้บริการเป็นเพียงผู้ให้บริการในการอํานวยความสะดวกในการทำธุรกรรมในการชําระ และ/หรือรับชำระค่าสินค้า และทําธุรกรรมตามคําสั่งของผู้ใช้บริการ ดังนั้น หากมีความเสียหายเกิดขึ้นเกี่ยวกับการทำธุรกรรมดังกล่าว หรือเกิดข้อพิพาทใด ๆ ผู้ใช้บริการต้องดําเนินการติดต่อผู้ขาย และ/หรือผู้ให้บริการของสินค้า และ/หรือบริการเหล่านั้นด้วยตนเอง อนึ่ง ในการให้บริการรับชําระค่าสินค้า และ/หรือค่าบริการ ผู้ให้บริการไม่มีส่วนรู้เห็นในสัญญา ข้อกําหนด หรือสิทธิและหน้าที่ต่าง ๆ ซึ่งผู้ใช้บริการและผู้ขายและ/หรือผู้ให้บริการของสินค้ามีต่อกัน ดังนั้น หากมีข้อพิพาทอันเนื่องมาจากชําระหนี้เกินกําหนด การชําระหนี้เพียงบางส่วน การถูกระงับการให้บริการ หรือกรณีอื่นใด ผู้ใช้บริการจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ และ/หรือดําเนินการแก้ไขข้อพิพาทด้วยตนเอง โดผู้ให้บริการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด 9.3 กรณีผู้ใช้บริการได้กระทำการใด ๆ ไม่ว่าจะด้วยเจตนาหรือไม่ก็ตาม อันเป็นการกระทำผิดกฎหมาย และ/หรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่น ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ผู้ใช้บริการตกลงรับผิดชอบต่อการกระทำ และ/หรือความเสียหายต่อบุคคลภายนอกหรือผู้ที่ได้รับความเสียหายเองโดยตรงทั้งสิ้น 9.4 การให้บริการของผู้ให้บริการเป็นเพียงการจัดการระบบเพื่อการให้บริการที่ราบรื่นและสะดวกสบายแก่ผู้ใช้บริการเท่านั้น ผู้ให้บริการไม่รับประกันความถูกต้อง ความเหมาะสม ความน่าเชื่อถือ คุณภาพ ความปลอดภัย ความสมบูรณ์ หรือความทันสมัยของข้อมูลทั้งหมดที่ให้บนเว็บไซต์ 9.5 การดาวน์โหลดข้อมูลหรือการเข้าถึงลิงก์ใด ๆโดยผู้ใช้บริการกระทำด้วยตนเองนั้นล้วนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและความเสี่ยงของผู้ใช้บริการ หากมีความเสียหาย หรือสูญหายของข้อมูลเกิดขึ้น ผู้ใช้บริการต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดขึ้นเอง และไม่เรียกร้องค่าเสียใด ๆ ต่อผู้ให้บริการ 9.6 ผู้ให้บริการไม่รับผิดชอบในกรณีผู้ใช้บริการกระทำผิดข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการนี้หรือทำธุรกรรมที่อยู่นอกเหนือการให้บริการของผู้ให้บริการหรือเกิดจากความประมาทเลินเล่อของผู้ใช้บริการ
10. ข้อมูลส่วนบุคคล
10.1 การให้บริการเติมและถอนไมล์เลจทำโดยผ่านคู่สัญญาของผู้ให้บริการคือบริษัท เซ็นดิท เทค จำกัด (Payment Gateway) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ใช้บริการได้ให้กับผู้ให้บริการจะได้รับการประมวลผลตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ให้บริการ และคู่สัญญาของผู้ให้บริการเพื่อการยืนยันอัตลักษณ์บุคคล 10.2 หากผู้ใช้บริการมีเกิดความสงสัย หรือมีคำถามที่ต้องการสอบถามหรือข้อร้องเรียนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลสามารถแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบเป็นลายลักษณ์อักษรได้ผ่านช่องทางที่ผู้ให้บริการกำหนด 10.3 ผู้ให้บริการอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ รวมถึงข้อมูลติดต่อ กรณีมีการร้องขอจากศาลหรือมีการดำเนินการทางกฎหมาย หรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจ
11. สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา
ผู้ให้บริการเป็นเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาไม่ว่าในบรรดาเนื้อหา และข้อความ รูปภาพ ตรา สัญลักษณ์ โลโก้ เครื่องหมายการค้า/บริการ ชื่อทางการค้า ตลอดจนงานออกแบบทั้งหมดทั้งที่อยู่ในเอกสารต่าง ๆ และเว็บไซต์ของผู้ให้บริการและ ผู้ใช้บริการจะต้องไม่ดำเนินการหรือกระทำการใด ๆ หรือยินยอมให้บุคคลอื่นกระทำการใด ๆ อันเป็นการทำให้เสื่อมเสียซึ่งสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาหรือเป็นการละเมิดต่อสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของ ผู้ให้บริการดังกล่าว ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม และไม่ว่าเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ ก็ตามผู้ใช้บริการจะต้องไม่บิดเบือนหรือแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อบุคคลอื่นหรือกระทำใด ๆ เพื่อให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดว่าสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาตามสัญญานี้เป็นของผู้ใช้บริการ
12. ข้อตกลงอื่น ๆ
12.1 ผู้ให้บริการไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้นในกรณีที่รายละเอียดข้อมูลบัญชีธนาคาร ข้อมูลบัตรเครดิต ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้ และรหัสผ่านของผู้ใช้บริการล่วงรู้ไปถึงบุคคลอื่น ๆ โดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อของผู้ใช้บริการเอง หรือการไม่รักษารหัสผ่านอย่างระมัดระวัง หรือกรณีมีบุคคลอื่นใดกระทำการจนเป็นเหตุให้ล่วงรู้ข้อมูลดังกล่าว หรือกรณีความไม่สุจริตของผู้ใช้บริการ 12.2 หากผู้ให้บริการพบว่าการทำธุรกรรมรายการใดไม่ถูกต้อง หรือเข้าข่ายเป็นการกระทำโดย ไม่สุจริตไม่ว่าด้วยวิธีการใด ๆ ก็ตาม ผู้ใช้บริการตกลงว่าจำนวนเงินรายการนั้น ๆ จะถูกยึด/อายัดไว้ ในระบบจนกว่า จะมีผู้แสดงความจำนงขอรับเงินดังกล่าวคืน ทั้งนี้ หากพิจารณาพยานหลักฐานและมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าบุคคลใดเป็นเจ้าของเงินที่แท้จริง ผู้ให้บริการมีสิทธิจะคืนเงินสุทธิ ภายหลังจากหักค่าธรรมเนียมการใช้บริการและค่าใช้จ่ายให้แก่เจ้าของเงินที่แท้จริงได้ทันที ผู้ใช้บริการตกลงที่จะให้ความร่วมมือในการพิจารณาตรวจสอบเอกสารและข้อมูล ตามที่ผู้ให้บริการร้องขอ และตกลงให้ผู้ให้บริการดำเนินการระงับบัญชีผู้ใช้ของผู้ใช้บริการไว้ชั่วคราวได้ 12.3 หากข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการ หรือข้อตกลงใด ๆ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดเป็นโมฆะ หรือไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายใด ๆ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงให้ถือว่าข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการ หรือข้อตกลงส่วนอื่น ๆ ที่สมบูรณ์แยกจากส่วนที่เป็นโมฆะหรือไม่สมบูรณ์ และมีผลใช้บังคับได้ต่อไป
13. หนังสือบอกกล่าว
หนังสือบอกกล่าว รายงาน และการสื่อสารอื่นใดที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับสัญญานี้ จะต้องส่งเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ และจะต้องส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือทางอีเมล ไปยังคู่สัญญาตามที่อยู่ที่ระบุไว้ด้านล่างหรือตามที่อยู่อื่น ๆ ที่คู่สัญญาได้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนหน้านี้ การแจ้งใด ๆ จะถือว่าได้รับและมีผลเมื่อมีการยืนยันการส่งมอบโดยบริการไปรษณีย์หรือบริการจัดส่ง ยกเว้นการแจ้งที่ส่งทางอีเมลซึ่งจะมีผลในวันที่ส่งทันที ที่อยู่ : บริษัท ไอเทมเมเนียทีเอช จำกัด สำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ 284/2 ถนนพุทธบูชา แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร 10140
14. กฎหมายที่ใช้บังคับ
ข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้ ให้ใช้บังคับและตีความตามกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทย โดยไม่ต้องคำนึงถึงบทบัญญัติว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมาย
  • 1. บทนำ
    เพื่อให้เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัท ไอเทมเมเนียทีเอช จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัท”) ได้ตระหนักเห็นถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นอย่างยิ่ง บริษัทจึงได้ทำการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้ โดยการกำหนดนโยบายและแนวทางการปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • 2. คำนิยาม
    “บริษัท” หมายถึง บริษัท ไอเทมเมเนียทีเอช จำกัด และให้หมายความรวมถึง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ “ผู้ใช้บริการ หรือ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ ลูกค้า พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมและการดำเนินงานต่าง ๆ ของบริษัท “กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต
  • 3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
    เบริษัทจะจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของบริษัท ซึ่งบริษัทจะเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามความยินยอมของท่านหรือในกรณีที่กฎหมายอนุญาตเท่านั้น ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้ 3.1. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ได้แก่ • ชื่อบัญชีผู้ใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) • คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล วันเกิด • ข้อมูลแสดงตัวตนที่ออกให้โดยหน่วยงานรัฐ ได้แก่ ภาพถ่ายบัตรประชาชน หมายเลขบัตรประชาชน และภาพถ่ายหนังสือเดินทาง หรือใบอนุญาตทำงาน (กรณีชาวต่างชาติ) • ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งที่อยู่ รวมถึง ที่อยู่ IP address 3.2. ข้อมูลสำหรับการติดต่อ ได้แก่ • หมายเลขโทรศัพท์มือถือ • ที่อยู่ปัจจุบัน • ที่อยู่อีเมล • ข้อมูลผู้ติดต่อในกรณีฉุกเฉินและข้อมูลอื่น ๆ ที่มีลักษณะเดียวกัน 3.3. ข้อมูลทางการเงิน ได้แก่ • ข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิต • รหัสรักษาความปลอดภัย (CCV Code) • ข้อมูลการทำธุรกรรมและข้อมูลประวัติการซื้อขายสินค้าที่ผู้ใช้บริการได้ใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มของบริษัท
  • 4. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ บุคคลไร้ความสามารถ
    บริษัทไม่มีความประสงค์ที่จะจัดเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ หรือบุคคลไร้ความสามารถ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลตามกฎหมายกำหนด แล้วแต่กรณี โดยผู้ใช้บริการรับรองและรับประกันว่าตนเองนั้นมีสิทธิ์และความสามารถทางกฎหมายในการใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มของ บริษัท การที่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ผู้เสมือนไร้ความสามารถ หรือผู้ไร้ความสามารถได้ใช้บริการจะถือว่าบุคคลดังกล่าวได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลตามกฎหมายแล้ว ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่บริษัทได้ทราบว่าบริษัทได้เก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ หรือบุคคลไร้ความสามารถโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ผู้พิทักษ์หรือ ผู้อนุบาลตามที่กฎหมายกำหนด แล้วแต่กรณี โดยมิได้เจตนา บริษัทจะดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลนั้นทันทีตามขั้นตอนของบริษัทที่ได้มีการระบุอยู่ในนโยบายฉบับนี้
  • 5. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
    บริษัทจะทำการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการที่ได้รับจากช่องทางต่างๆ ดังต่อไปนี้ 5.1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากผู้ใช้บริการโดยตรง บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเมื่อผู้ใช้บริการได้ดำเนินการ ดังนี้ 5.1.1. การสมัครใช้บริการกับบริษัท หรือขั้นตอนการยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่าง ๆ ที่ได้ระบุไว้ในข้อ 10กับบริษัท 5.1.2. การทำแบบสอบถาม (survey) หรือ การโต้ตอบทาง จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ระหว่างบริษัทและผู้ใช้บริการทั้งนี้ตามความสมัครใจของผู้ใช้บริการ 5.2. ข้อมูลที่ถูกจัดเก็บโดยอัตโนมัติ บริษัทได้ทำการจัดเก็บข้อมูลบางส่วนเมื่อผู้ใช้บริการเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัท เข้าสู่ระบบ และ มีปฏิสัมพันธ์กับบริษัท อาทิเช่น เมื่อผู้ใช้บริการเข้าใช้เว็บไซต์ของบริษัท หรือ ผ่าน browser’s cookies ของผู้ใช้บริการ เป็นต้น บริษัทจะจัดเก็บข้อมูล IP Address ของผู้ใช้บริการ ตำแหน่งที่อยู่ และจัดเก็บข้อมูลตามการอนุญาตผ่านระบบอุปกรณ์ต่าง ๆ ของผู้ใช้บริการ
  • 6. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
    บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ 6.1. เพื่อการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการ หรือ สมาชิก 6.2. เพื่อการรักษาความปลอดภัยเส้นทางการสื่อสารที่ราบรื่นสำหรับการส่งคำบอกกล่าวยืนยันความตั้งใจของผู้ใช้บริการ และการจัดการข้อร้องเรียน 6.3. เพื่อได้รับข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการให้บริการ เมื่อผู้ใช้บริการสมัครเป็นสมาชิกกับทางบริษัท 6.4. เพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามกฎหมาย หรือตามข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง
  • 7. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
    เมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการแล้ว บริษัทจะดำเนินการดังต่อไปนี้กับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ซึ่งการดำเนินการต่าง ๆ จะเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ในข้อ 6. หรือตามความยินยอมของผู้ใช้บริการ หรือตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด 7.1. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการโดยบริษัท ในการเข้าถึงและใช้บริการของบริษัท ผู้ใช้บริการจำเป็นจะต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการให้บริการกับผู้ใช้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการได้ในรูปแบบที่เป็นเอกสาร และ/หรือรูปภาพ และ/หรือรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ 7.2. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการมาประมวลผลตามฐานการประมวลผลดังต่อไปนี้ 7.2.1. ประมวลผลตามฐานสัญญา (Contract) เมื่อท่านทำการสมัครใช้บริการ จำเป็นที่ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท เพื่อที่บริษัทจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปประมวลผลเกี่ยวกับการให้บริการและการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ในข้อ 6. หรือเพื่อติดต่อสื่อสารกับท่าน หรือเพื่อติดตาม หรือแจ้งผลประโยชน์ในการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับลักษณะรูปแบบการให้บริการ ตอบข้อซักถาม และแจ้งการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อันเป็นกรณีตามฐานสัญญาตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 7.2.2. ประมวลผลตามฐานความยินยอม (Consent) บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการออกแบบหรือพัฒนาการให้บริการ หรือกิจกรรมทางการตลาดของบริษัท หรือเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรงเมื่อท่านให้ความยินยอม หากท่านประสงค์จะถอนความยินยอมในการประมวลผลดังกล่าว ท่านสามารถติดต่อบริษัทและแจ้งความประสงค์ได้ตามสิทธิที่ได้มีการระบุไว้ในข้อ 10 7.2.3. ประมวลผลตามฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปประมวลผลเพื่อการจัดการและการจัดทำรายงานภายในของบริษัท เพื่อพัฒนาระบบการรักษามาตรฐาน การให้บริการ รวมไปถึงการดำเนินการจัดการความเสี่ยงของบริษัท อันเป็นกรณีฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 7.2.4. ประมวลผลตามฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปประมวลผลเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำกับดูแลการให้บริการของบริษัท ซึ่งอาจต้องอยู่ภายใต้บังคับกำหนดให้ส่งข้อมูล เช่น ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ที่ให้อำนาจศาลสั่งให้คู่ความส่งเอกสารหรือข้อมูลในการพิจารณาคดี เป็นต้น อันเป็นกรณีฐานการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 7.3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก โดยทั่วไป บริษัทจะไม่ทำการเปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกหรือหน่วยงานภายนอก เว้นแต่บริษัทจะได้รับความยินยอมจากท่านหรือเพื่อเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่ใช้บังคับ อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในข้อ 6 กับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในข้อ 7 ระบุในนโยบายนี้ บริษัท อาจจำเป็นต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวของท่านบางส่วนเฉพาะเท่าที่จำเป็นแก่บุคคลภายนอก (ซึ่งอาจมีที่ตั้งหรือให้บริการอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ) ดังต่อไปนี้ 7.3.1. บริษัทในเครือของบริษัท ในกรณีที่มีความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลภายใต้วัตถุประสงค์ที่ระบุในข้อ 6 ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เท่านั้น 7.3.2. สถาบันการเงินอื่น ๆ ในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้ต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อตรวจสอบธุรกรรมการเงินหรือตรวจสอบเส้นทางการเงินในกรณีที่ท่าน ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางการเงิน หรือในกรณีที่มีเงินที่ต้องสงสัยเข้ามายังบัญชีของท่านจากอาชญากรรมทางการเงิน หรือในกรณีที่ท่านยินยอมให้บริษัท เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของท่านเพื่อดำเนินการให้เกิดผลสำเร็จของธุรกรรม 7.3.3. ผู้รับจ้าง ตัวแทนและผู้ให้บริการของบริษัท (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ผู้ให้บริการชำระเงิน ผู้ให้บริการยืนยันตัวตน ผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูล ผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลคลาวด์ (Cloud) หรือศูนย์ข้อมูล (data center) ผู้ให้บริการเกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาดและสื่อโฆษณา สื่อมวลชนเพื่อการประชาสัมพันธ์ ผู้ให้บริการส่งอีเมลและข้อความ ผู้ให้บริการด้านสื่อสังคมออนไลน์ บริษัทรับจ้างจัดกิจกรรม ผู้ให้บริการระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์ และผู้ให้บริการพัฒนาและดูและระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีสารสนเทศ) ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อสนับสนุนธุรกิจของบริษัท และเพื่อเสนอและตอบสนองการใช้งานผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท ทั้งนี้ บริษัท จะจัดทำข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด 7.3.4. บุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่มีการซื้อ ขาย โอน ควบรวมกิจการของบริษัท การปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งจำเป็นต้องแบ่งปันข้อมูลเพื่อดำเนินการให้เกิดผลสำเร็จของการซื้อ ขาย โอน ควบรวมกิจการ หรือปรับโครงสร้างองค์กรนั้น 7.3.5. หน่วยงานรัฐและหน่วยงานกำกับดูแลและบุคคลภายนอกที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่บริษัท มีหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเมื่อกระบวนการทางกฎหมายบังคับให้เปิดเผยข้อมูลต่อศาล กรมบังคับคดี เจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานกำกับดูแล ตลอดจนที่ปรึกษากฎหมาย ตัวแทนโดยชอบธรรมของบริษัท หรือบุคคลอื่นใดในกรณีที่บริษัท เชื่อว่ามีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลที่สาม หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคล 7.4. การโอนหรือส่งต่อข้อมูลไปยังต่างประเทศ บริษัทอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปจัดเก็บและ/หรือประมวลผลตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้นอกประเทศไทย โดยบริษัทจะทำให้แน่ใจว่าข้อมูลของท่านจะถูกส่งไปยังประเทศปลายทางหรือหน่วยงานปลายทางที่มีมาตรฐานและนโยบาย ในการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวในระดับที่เพียงพอและเป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ
  • 8. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลและขั้นตอนการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
    8.1. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตามแต่ละประเภท ตามระยะเวลาที่กำหนดดังต่อไปนี้
    ลำดับที่ รายการข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาเก็บรักษา
    1 บันทึกสัญญาการสมัครสมาชิกหรือถอนการเป็นสมาชิก 5 ปี
    2 บันทึกการชำระเงินและการจัดหาสินค้า 5 ปี
    3 บันทึกข้อร้องเรียนหรือข้อโต้แย้งของผู้ใช้บริการ 3 ปี
    4 บันทึกข้อบ่งชี้และโฆษณา 6 เดือน
    5 บันทึกการเข้าสู่ระบบ 3 เดือน
    เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการที่ไม่ได้ใช้บริการเป็นเวลานานเกินกว่าหนึ่งปีหรือระยะเวลาที่กำหนดโดยกฎหมาย อื่นๆ บริษัทจำดำเนินการแยกข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการกลุ่มดังกล่าวแยกออกต่างหากจากกลุ่มผู้ใช้บริการทั่วไป โดยบริษัทจะมีพื้นที่จัดเก็บไว้รองรับข้อมูลของผู้ใช้บริการกลุ่มดังกล่าวไว้โดยเฉพาะ เมื่อพ้นระยะเวลาจัดเก็บ หรือผู้ใช้บริการได้ดำเนินการยกเลิก ถอน หรือคัดค้าน หรือบริษัทไม่สามารถอ้างถึงข้อมูลในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการรายนั้นได้แล้ว บริษัทจะดำเนินการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ 8.2. ขั้นตอนการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล 8.2.1. การคัดแยกเก็บเอกสารก่อนการทำลาย หลังจากพ้นระยะเวลาการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ได้ระบุไว้ในข้อ 8.1 แล้ว บริษัทจะมีการดำเนินการแยกข้อมูลส่วนบุคคลออกตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้กำหนดไว้ก่อนที่จะดำเนินการทำลาย ซึ่งหลังจากบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว บริษัทจะดำเนินการตามนโยบายภายในและเหตุผลในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 8.2.2. วิธีการทำลาย • ข้อมูลส่วนบุคคลที่พิมพ์บนกระดาษจะถูกทำลายด้วยเครื่องทำลายเอกสารหรือทำลายโดยการเผา • ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บในรูปแบบของไฟล์อิเล็กทรอนิกส์จะถูกลบโดยใช้วิธีการทางเทคนิคที่ไม่สามารถทำซ้ำและบันทึกได้
  • 9. สิทธิของเจ้าของข้อมูลและช่องทางการขอใช้สิทธิ
    ผู้ใช้บริการมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ ดังต่อไปนี้ 1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to withdraw consent) เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่กับบริษัท 2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right of access) เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการเข้าถึงและขอข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทให้แก่ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ 3) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to rectification) เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ 4) สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to erasure) เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะขอให้บริษัทลบข้อมูลของท่านด้วยเหตุบางประการได้ อาทิเช่น • เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล • เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล • เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทำการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล 5) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to restriction of processing) เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูล ส่วนบุคคลของตนเอง ด้วยเหตุบางประการได้ อาทิเช่น • เมื่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่ดำเนินการตามคำร้องขอ ที่เจ้าของข้อมูลร้องขอให้ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเขาใจผิด 6) สิทธิในการเคลื่อนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to data portability) เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองที่ให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือเพื่อตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้ 7) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to object) เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้ หากท่านต้องการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุในส่วนนี้ ท่านสามารถทำได้โดยส่งคำร้องขอผ่านช่องทางดังต่อไปนี้ • ส่งอีเมลถึงเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทที่ระบุในหัวข้อ “ช่องทางการติดต่อ” ของนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยใช้ชื่อเรื่องว่า “การขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หรือ • กรอก แบบฟอร์มการขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ก่อนดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิของท่าน บริษัท อาจมีความจำเป็นต้องขอข้อมูลของท่านเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการยืนยันตัวตน โดยถ้าเป็นในกรณีที่ได้มีการมอบหมายให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอแทน บริษัท จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเพื่อการพิจารณาและดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น ถ้าหาก บริษัทรับคำขอไว้พิจารณา บริษัทจะพิจารณาผลลัพธ์ของคำขอของท่านและแจ้งให้ท่านทราบภายใน 30 วันหลังจากได้รับคำขอ โปรดทราบว่า หากบริษัท มีเหตุจำเป็นต้องปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นของท่านตามที่กฎหมายกำหนด บริษัทจะแจ้งเหตุแห่งการปฏิเสธให้ท่านได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
  • 10. กิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด
    ในระหว่างการใช้บริการ บริษัทจะส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาดและส่งเสริมการตลาด ผลิตภัณฑ์ การให้บริการของบริษัท ที่บริษัทคาดว่าผู้ใช้บริการอาจมีความสนใจเพื่อประโยชน์ในการให้บริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ หากผู้ใช้บริการได้ตกลงที่จะรับข้อมูลข่าวสารดังกล่าวจากบริษัท ผู้ใช้บริการมีสิทธืยกเลิกความยินยอมดังกล่าวได้ทุกเมื่อ โดยผู้ใช้บริการสามารถดำเนินการยกเลิกความยินยอมในการรับแจ้งข้อมูลข่าวสารได้
  • 11. มาตรการการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    บริษัทมีการวางระบบและมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในบริษัท โดยเลือกใช้ระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลให้มีกลไกที่ถูกออกแบบและเทคนิคที่เหมาะสม พร้อมทั้งมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของบริษัท เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้ เปิดเผย ทำลาย หรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตและสามารถกู้ข้อมูลกลับคืนในกรณีเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ขึ้น
  • 12. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    พื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ และกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราวและตามที่กฎหมายอนุญาตได้ โดยบริษัทจะแจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวบนเว็บไซต์ของบริษัท โดยนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่แก้ไขนี้จะมีผลใช้บังคับ ณ วันที่บริษัท ได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ดังกล่าว บริษัท แนะนำให้ท่านตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นประจำ โดยการที่ท่านใช้บริการทางเว็บไซต์ของบริษัท ต่อไปหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว จะถือว่าท่านยอมรับนโยบายที่เปลี่ยนแปลงนั้นโดยปริยาย
  • 13. ช่องทางการติดต่อ
    หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยและ/หรือโอนไปซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท หรือต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท ไอเทมเมเนียทีเอช จำกัด ที่อยู่ : 284/2 ถนนพุทธบูชา แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ 10140 โทร : 02-002-9752 อีเมล์ : itemmaniath2022@gmail.com